คลังเก็บหมวดหมู่: วิทยาศาสตร์

ใต้มหาสมุทรมีน้ำจืดซ่อนอยู่

ใต้มหาสมุทรมีน้ำจืดซ่อนอยู่ น้ำจืด คือทัพยากรธรรมชาติธรรมชาติที่มีค่าที่สุด  และจำเป็นต่อชีวิตของมนุษย์อย่างเราๆมากที่สุด เพราะน้ำจืดนั่นเป็นสิ่งที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันทุกๆ วันอย่างการดื่มเพื่อการดำรงชีวิต ใช้ในการอาบ     เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกของร่างการ 

และในปัจจุบันนี้มีหลายประเทศที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับเราของการขาดแคลนน้ำจืดเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวกับภัยแล้งและขาดแคลน    น้ำจืดในการทำการเกษตรในหลายๆ พื้นที่

แน่นอนว่าชีวิตของเรานั่นไม่สามารถขาดน้ำได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญมากที่สุดก็คือน้ำจืดในปัจจุบันนี้มีหลายประเทศที่ประสบปัญหา  เกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำดื่มอย่างกว้างขวาง แต่ตอนี้คุณไม่ต้องกลัวแล้วเพราะเพิ่งมีผู้ค้นพบทางแก้ปัญหา

ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้มหาสมุทร มีคนค้นพบแหล่งกักเก็บน้ำจืดใต้ก้นทะเลตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 มันไม่ถึงกับระดับที่ดื่มได้ แต่ระดับของเกลือในนั้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำทะเลเหนือแอ่ง แต่ถึงอย่างนั้นนักวิจัยก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากรู้สึกสงสัย และสิ่งที่เข้าค้นพบนั้นก็น่าทึ่งเป็นอย่างมาก นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าแหล่งกักเก็บน้ำจืดนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 217 ไมล์ ดร.กุสตาฟซอน

และผู้ร่วมงานของเธอแน่ใจ  มากว่าแหล่งเก็บน้ำของชายฝั่งแอตแลนติกไม่ใช้แค่ที่เดียวในโดลก แต่สถานที่อื่นๆ อาจจะมีและบางทีคงมีอยู่ในส่วนต่างๆ บนดาวดวงนี้อีกด้วยถึงแม้ว่า  จะยังไม่พบระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลทำงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก และเรายังคงใช้ผลิตจากระบบที่ว่านี้ตอนนี้สิ่งที่ระบบทำคือสกัดน้ำจืดจากน้ำทะเลด้วยการแยกส่วนเกลือ และทำให้ดื่มได้ ในโลกตอนนี้มีระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำเค็มมากกว่า 20,000 แห่ง

แต่นี้ก็เป็นการทำลายระบบนิเวศ ของมหาสมุทรอีกอย่างหนึ่งถึงแม้ว่าเราจะได้น้ำดื่มมาใช้ในชีวิตประจำวัน    ถ้าเรามีแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เกือบจะดื่มได้  หวยฮานอย บาทละ 1000   เราก็คงไม่จำเป็นต้องนำน้ำเค็มมาใช้มากขนาดนี้

การวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่าน้ำจืดใต้ท้องทะเล  ก็ยังได้รับการหล่อเลี้ยงโดยทรัพยากรภาคพื้นจำพวก แม่น้ำ ธารน้ำ และน้ำฝน นั้นหมายความว่าแหล่งเก็บน้ำนี้กำลังโตขึ้นอย่างช้าๆ นับตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง และสำหรับมนุษย์อย่างเราๆ แล้วการค้นพบสิ่งเหล่านนี้มีความหมายกับเราเป้นอย่างมาก และบางทีอาจจะเป็นความหวังใหม่ที่ดีที่สุดเพื่อการเอาชีวิตรอดได้ อย่างไรก็ตามเราควรจะช่วยกันรักษาแหล่งกักเก็บน้ำจืดที่มีไว้ให้ดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลย

การไปสำรวจบนดาวอังคาร

วันบนดาวอังคารเกือบเหมืนกับบนโลกมันนานกว่า24ชั่วโมงและ39นาที ดังนั้นมันยาวกว่าหนึ่งวันของบนโลกนิดหน่อยแต่ปี บนดาวอังคารคือ 2ปี

เพราะวงโคจรของดาวอังคารนั้นมีขนาดเป็น 2 เท่าของโลกเพราะว่าวงจรในตอนกลางวัน กับ กลางคืนและในชั้นยรรยากาศที่บาง ดาวอังคารอาจจะเป็นดาวเคราะห์ไกล้กันแค่เพียงดวงเดียวที่อาจจใช้เรือนกระจกพลังแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ได้ สิ่งก่อสร้างนี้จะช่วยให้นักบุกเบิกปลูกอาหารได้เองบนดวงดาวเคราะห์กันดารและหนาวเหน็บหลายคนนั้นคิดว่าเป็นเรื่องง่ายแค่ลงมะเขือเทศ กะหล่ำ

แล้วก็เรียบร้อยทำไร่บนดาวอังคารได้แล้วแต่การวิจัยที่ทำในมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซน่าได้บอกว่าพอเนาส่งจุลินทรีย์ไปในอวกาศมันทำตัวต่างออกไปมันไม่ชอบข้างบนนั้นเอาซะเลยวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกหลายร้อยหรือไม่ก็หลายพันเล่มในช่วง20ปีหลังได้เขียนถึงวิธีในการปลูกอาหารบนดาวอังคารและได้มีการทดลองน่าสนใจมากมายในปี 2013 ถึง 2015 ในเนเธอร์แลนด์เมื่อนาซ่าได้มอบสิ่งที่ชาวดัตช์คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เหมือนกันเป๊ะกับดินบนดาวอังคารและพวกดัตช์ปลูกเมล็ด4,200เมล้ดลงไปได้เป็นผัดชนิดต่างๆ

และทุกเมล็ดนั้นก็ได้แตกหน่อบางอย่างอย่างเช่น  แครอทก็งอกงามดีมากบนนั้นและยังไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราสามารถปลูกอาหารบนดาวอังคารได้แต่ก็คงจะอีกหลายร้อยปีกว่าที่เรานั้นจะปลูกอาหารบนดาวอังคารได้มากพอที่จะอยู่รอดได้ด้วยอาหารที่เรานั้นได้ปลูกและในทางเดียวที่เรานั้นจะทำสิ่งนั้นได้ก็คือต้องปรับสภาพดาวเคราะห์เพื่อให้มันเหมือนโลกมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เราปลูกพืชผิวของดาวนั้นได้ในช่วงหลายปีหลัง

นักวิทยาศาสตร์ได้เสนอวิธีหลายวิธีเพื่อปรับสภาพบนดาวอังคารเพื่อเปลี่ยนมันให้เหมือนโลกมากขึ้นส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่การละลายน้ำแข็งที่ขั่วโลกเพื่อที่จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศให้มันหนาขึ้นและถ้าเราทำให้ขั้วโลกที่ดาวอังคารร้อนนั่นก็จะทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นมากบนดาวอังคารและก็เริ่มมีน้ำไหลบนดาวอังคารโดยเฉพาะบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรจากนั้นน้ำก็จะขึ้นไปอยู่ในชั้นบรรยกาศ

ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกกกอีกอย่างและเราจะทำให้ดาวอังคารร้อนขึ้นแล้วเราจะปลูกพืชบนดาวอังคารได้แต่ว่านั่นยังอีกนาน น่าจะนานอย่างน้อย300ปี เมื่อทั้งภารกิจทั้งนาซ่าและภาคเอกชนเริ่มงานอย่างเป็นทางการแล้วมนุษย์บนดาวอังคารไม่ใช่เรื่องของนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไปแต่เราจะไปไกลถึงขนาดปรับสภาพดาวเคราะห์จนสามารถปักหลักอย่างถาวรที่นั่นได้จริงหรือไม่และถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมดาวอังคารมีอะไรที่ดึงดูดเราให้ไปที่นั่น